วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

ระบบเบรค

ระบบเบรกรถยนต์ในบัจจุบันเป็นแบบไฮโดรลิก  แบ่งออกเป็น  2  แบบ  คือ  แบบดรัมเบรก  และแบบดิสเบรก  ระบบเบรก  ทั้งสองระบบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ได้มีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา  เพื่อให้การใช้งานตรงกับความต้องการของผู้ใช้รถมากที่สุด


ระบบเบรค

1.  ระบบเบรกแบบดรัมเบรก (Drum Brake)
ดรัมเบรกจะติดตั้งแน่นกับลูกล้อ  เบรกจะทำงานเมื่อมีการถ่างก้ามเบรกให้เสียดสีกับตัวเบรกซึ่งครัมเบรกจะทำให้ล้อหยุด  ดรัมเบรกใช้มากในรถบรรทุกทั้งขนาดใหญ่และเล็ก  รวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลบางรุ่น  รถบางรุ่นอาจใช้ระบบนี้เฉพาะล้อหลัง

ข้อดี    มีความสามารถในการหยุดรถได้เร็ว  เพราะก้ามเบรกและดรัมเบรกถูกยึดติดกับดุมล้อ  เมื่อเหยียบเบรก  คนขับใช้แรงกดดันเบรกน้อย  รถบางรุ่นไม่จำเป็นต้องใช้หม้อลมเบรกช่วยในการเบรก
ข้อเสีย  ความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี  ระหว่างผ้าเบรกในดรัมเบรกนั้น  ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี  บางครั้งทำให้ผ้า   เบรกมีอุณหภูมิสูง   มากมีผลทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลง

2.  ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก (Disc  Brake)
เป็นระบบเบรกระบบใหม่ที่นิยมกันมาก  เบรกจะทำงานโดยดันผ้าเบรกให้สัมผัสกับจานเบรกเพื่อให้รถหยุด  รถยนต์บางรุ่นใช้ดิสก์เบรกทั้ง  4  ล้อ บางรุ่นใช้เฉพาะล้อหน้า

ข้อดี     ลดอาการเฟด (เบรกหาย)  เนื่องจากอากาศได้เทความร้อนได้ดีกว่าดรัมเบรก  นอกจากนั้นเมื่อเบรกเปียกน้ำผ้าเบรก จะสลัดน้ำออกจาก ระบบได้ดี  ในขณะที่ดรัมเบรกน้ำจะขังอยู่ภายใน  และใช้เวลาถ่ายเทค่อนข้างช้า
ข้อเสีย  ไม่มีระบบ  Servo  action  หรือ  multiplying  action  เหมือนกับดรัมเบรก  ผู้ขับจึงต้องออกแรงมากกว่า จึงต้องใช้ระบบเพิ่มกำลัง  เพื่อเป็นการผ่อนแรงขณะเหยียบเบรกทำให้ระบบดิสเบรกมีราคาค่อนข้างแพงกว่าดรัมเบรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น